
แฟรงกี้ เดอ ยอง เตรียมขยายสัญญากับบาร์เซโลนาอย่างเป็นทางการ
Mansion Sports – แม้ว่าบาร์เซโลนาจะคาดการณ์ว่าจะไม่มีการเสริมทัพนักเตะใหม่เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ แต่ความเคลื่อนไหวภายในฝ่ายกีฬาของสโมสรก็ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของสโมสรคือการปล่อยนักเตะบางรายออกจากทีมเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับนักเตะใหม่ และในเวลาเดียวกันก็เร่งเดินหน้าขยายสัญญากับผู้เล่นหลักของทีม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์
การเจรจาสัญญาใหม่ของเดอ ยองเริ่มมีความคืบหน้า
ในขณะที่กองหลังอย่างฌูลส์ กุนเด้ และเอริก การ์เซียกำลังอยู่ในช่วงท้ายของการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร การพูดคุยกับเดอ ยองก็เริ่มเข้าสู่ช่วงต้นของกระบวนการอย่างเป็นทางการ แม้จะยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับสโมสรเปิดเผยว่าทั้งสองฝ่ายมีความมั่นใจอย่างสูงว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในเร็วๆ นี้
แม้ว่าสัญญาฉบับปัจจุบันของเดอ ยองจะเหลือเวลาไม่ถึง 12 เดือน ความคาดหวังยังคงอยู่ในระดับสูงว่าจะสามารถต่อสัญญาออกไปได้จนถึงปี 2028 โดยมีรายงานว่ามี "ข้อตกลงในหลักการ" (principle agreement) ที่ได้รับการยืนยันจากทั้งสองฝ่าย
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมุนโด เดปอร์ติโบ เดอ ยองกล่าวว่า:
"ผมยังไม่ได้เซ็นสัญญาใหม่ เพราะถ้าผมเซ็นไปแล้ว พวกคุณก็คงจะรู้เรื่องนี้แล้วแน่นอน"
"แต่ผมมีความสุขมากกับการได้อยู่ที่บาร์ซ่า และพวกเขาก็รู้ดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นในที่สุดแล้ว ผมจะต่อสัญญาของผมออกไปแน่นอน"
การต่อสัญญาเดอ ยองถือเป็นกลยุทธ์ระยะยาวของสโมสร
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว หลายฝ่ายเคยเชื่อมั่นว่าแฟรงกี้ เดอ ยองจะอำลาถิ่นคัมป์นูก่อนที่สัญญาของเขาจะหมดลงในปี 2026 ทว่า นักเตะวัย 27 ปีรายนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในแผนการทำทีมของกุนซือฮานซี่ ฟลิค โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา
ในเวลานี้ เดอ ยองได้กลายเป็นหนึ่งในตัวหลักในแดนกลางของทีมบาร์เซโลนา แต่อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2025–2026 เขาอาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการแย่งตำแหน่งตัวจริงมากขึ้น เนื่องจากต้องแข่งขันกับมาร์ค คาซาโด กองกลางดาวรุ่งที่ฟอร์มดี และยังมีมาร์ค แบร์นาล อีกหนึ่งดาวรุ่งที่มีกำหนดจะกลับมาจากการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่า (ACL) ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การตัดสินใจต่อสัญญากับเดอ ยองจึงไม่ใช่เพียงการรักษานักเตะคุณภาพไว้กับทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของสโมสรในการสร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับทีมชุดใหญ่ ภายใต้สภาพการเงินที่ยังคงตึงตัวของสโมสร การรักษาผู้เล่นที่มีคุณภาพระดับสูงไว้ได้ ถือเป็นความสำเร็จในเชิงกลยุทธ์ทั้งในมิติของเทคนิคการเล่นและการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ